ดอกไม้กินได้
This flower grow beside the edge of my fence house.
It's ingredient of a regular meal of Thaifood and drink.
"ผักสวนครัว รั้วกินได้"
คำที่ได้ยินมาตั้งแแต่เด็ก สมัยนี้หากจะหาบ้านที่มีคำนี้อยู่คงยากยิ่ง
ยิ่งในตัวเมืองแล้วไซร้ แทบจะไม่มีต้นไม้ ใบหญ้า ด้วยซ้ำ
บรรยากาศที่ตื่นเช้ามาสูดอากาศบริสุทธิ์ ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ
ในบ้านสวนสมัยที่ผู้เขียนยังเอ๊าะๆ ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่วาดภาพนี้
เช้านี้เดินไปรอบบ้าน สำรวจบริเวณบ้านไปเรื่อยๆ แล้วก็มาพบกับดอกไม้กินได้พวกนี้
เลยสอยมาเป็นแบบซะเลย แม้บ้านหลังนี้จะอยู่ในตัวเมือง มีบริเวณไม่มากนัก
แต่พ่อ แม่ น้า ก็ยังคงปลูกผักสวนครัวไว้ริมรั่วดังในอดีต พอให้ได้กินได้ใช้ในครัวเรือน
เมื่อยามที่แม่จะแกงอะไรสักอย่าง...
ก็ไม่พ้นต้องไปเก็บดอกแคหน้าบ้านมาเป็นส่วนประกอบเกือบทุกครั้งไป
หากมีเยอะเกินไปก็แบ่งปันกันไป ให้เพื่อนบ้านบ้าง นำไปวัดบ้าง
มีคุณยายคนหนึ่ง ชอบมาขอดอกดาหลาไปวัดในวันพระ เราก็พลอยได้อนุโมทนาไปกับคุณยายด้วย ลองคิดถึงประโยชน์ที่จะได้รับมาแล้วนั้น มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม หากจะมีรั่วที่สามารถเลี้ยงชีวิตได้
คงจะประหยัดค่าใช้จ่ายไปเยอะ อีกทั้งยังได้รับประโยชน์อย่างครบถ้วน สมบูรณ์
จาก ผัก ที่ปลอดสารพิษ ไม่มีการปรุงแต่ง
หากแต่คงต้องทะเลาะ ยื้อแย่งกับน้องหนอนน้อยและเจ้าหอยทากสักหน่อย
แต่ก็ถือว่า แบ่งๆกันกินละกันนะ
วิถีชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้ใกล้จะหายไปจากสังคมไทยไปมากขึ้นทุกที
เดี๋ยวนี้ อะไรๆ ก็รีบร้อนไปซะทุกอย่าง เวลาทานอาหารเช้ายังจะไม่ค่อยมีเลย
ในช่วงที่ผู้เขียนไปเรียนที่กรุงเทพนั้น ตอนเช้าตื่นมาก็ต้องรีบอาบน้ำ แต่งตัวไปเรียน
อาหารเช้าขาประจำก็จะเป็นแซนวิช ก่อนขึ้นเรียน
จริงๆก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน กินแซนวิชได้ทุกวัน ไม่เบื่อบ้างหรือไง?
แต่ช่วงนี้กลับมาอยู่บ้าน ตื่นแต่ไก่โห่ ไปเดินเล่นที่ตลาด ซื้อของมาทำกับข้าวกินกันกับครอบครัว
อร่อยอย่าบอกใคร ไม่ใช่ว่าอาหารที่ทำจะอร่อยมากมายหรอกนะ
แต่การได้กินพร้อมหน้า พร้อมตากับครอบครัวนี่แหละ รสอูมามิของจริงเลยหล๊ะ